29 มิ.ย. 2557

มะขามป้อม

 
    มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Phyllanthus emblica Linn. จัดอยู่ในวงศ์ EUPHORBIACEAE เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางมีถิ่นกำเนิดแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มะขามป้อมพบได้ในป่าเบญจพรรณแล้งหรือป่าแดงผลมีลักษณะกลม มีรอยแยกแบ่งออกเป็น ๖ กลีบ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๒ ซ.ม.มะขามป้อมผิวนอกขรุขระมีสีน้ำตาล ส่วนหัวมีรอยขั้วก้านผล มะขามป้อมเนื้อผลเหนียวแตกยากเนื้อในมีสีเหลืองอ่อน มีเมล็ดสีน้ำตาลอยู่ภายในผลแห้งที่ดีควรมีขนาดใหญ่ อวบอิ่มและแห้งไม่มีก้านผลติดมานิยมใช้ผลแก่ซึ่งมีรสเปรี้ยว ฝาดขม เป็นยาแก้ไอ แก้เสมหะทำให้ชุ่มคอปัจจุบันยังพบว่ามะขามป้อมมีวิตามินซีสูงมาก แก้พิษสารตะกั่วได้ตามตำรับยาแผนโบราณใช้เปลือกลำต้น โดยใช้เปลือกที่แห้งแล้วบดให้เป็นผงละเอียดโรยแก้บาดแผลเลือดออกและแผลฟกช้ำใช้ใบสดมาต้มกินแก้บวมน้ำ นำใบมาตำพอกหรือทาบริเวณแผล ผื่นคันมีน้ำหนองน้ำเหลืองและผิวหนังอักเสบใช้มะขามป้อมผลสดเป็นยาบำรุงทำให้สดชื่น แก้กระหายน้ำ แก้ไอแก้หวัด ช่วยระบายขับปัสสาวะ แก้เลือดออกตามไรฟันและคอแห้ง ผลแห้งตำให้เป็นผงชงกินแก้โรคหนองใน แก้ตกเลือด ท้องเสีย โรคบิดแก้โรคดีซ่านและโรคโลหิตจาง รากต้มกินแก้ร้อนใน แก้โรคเรื้อน แก้ความดันโลหิตสูงและแก้ท้องเสียมีรายงานวิจัยว่ามะขามป้อมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยการไปจับกับโลหะหนัก ซึ่งตะกั่วก็จัดว่าเป็นโลหะหนักชนิดหนึ่งมะขามป้อมตามความรู้แบบไทยบันทึกไว้ว่ามะขามป้อมช่วยขับพิษ การกินน้ำมะขามป้อมก็คงจะดี (ถ้าเป็นเบาหวาน ก็ไม่ควรจะใส่น้ำตาลถ้าเกรงว่าจะไม่อร่อย นิดหน่อยก็พอได้) หรือรับประทานมะขามป้อมสด วันละ ๕ - ๗ผลผลมะขามป้อมมีแทนนิน ที่ละลายน้ำได้ ๒ ชนิดคือ เอมบลิเคนิน เอ & บี ( Emblicanin A&B ) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่มีความแรงสูงมากยิ่งกว่านั้นยังมีวิตามินซีกลุ่มใหม่ ( Ascorbigen ) ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคมะเร็ง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

lag

English French German Spain Russian Japanese Arabic Chinese Simplified

Blog Archive

Fanpage

Popular Posts

Recent Posts

News สมุนไพรเพื่อสุขภาพ

Text Widget